วันนี้เราลองมาดูกันครับว่า คนที่เขาเล่นเกมแบบนี้แล้วรวยเขาเล่นกันอย่างไง
แต่ก่อนสิ่งใดสำหรับคนที่ไม่รู้กติกาใดๆ ไม่เคยรู้จักมันมาก่อนก็มาดูกันว่ามันเล่นกันอย่างไง
กติกาคือ
K Q J มีค่าเท่ากับ 10 A มีค่าเท่ากับ 1 หรือ 11 ก็ได้ ใครได้แต้ม 21 หรือใกล้ 21 มากกว่าก็ชนะ แต่ถ้าเกิน 21 ไปแพ้หมด
ขั้นแรกรับไพ่คนละสองใบ แบบเปิดทุกใบยกเว้นเจ้ามือ เปิดใบเดียว ถ้าแต้มยังไม่ถึง 21 ก็จะมีทางเลือกให้ว่าจะสู้(Stand) หรือ เอารับไพ่อีก(Hit) ถ้ายังไม่เกิน 21 ก็รับได้เรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ ถ้าได้ไพ่ที่มีแต้มเหมือนกันก็จะสามารถแยกคู่เล่นได้
ถ้าเปิดไพ่สองใบแรกแล้วออกมาเป็น A กับไพ่ที่มี 10 แต้ม เราจะเรียกว่า แบล็คแจ็ค (Blackjack) ได้ 21 แต้มชนะทันทีแล้วก็จะมีรางวัลพิเศษด้วย
ไปเล่นกับบ้าง ที่ก็จะมีให้เลือก Double เพิ่มเดิมพันอีกเป็นสองเท่าแล้วรับอีกใบเดียวเท่านั้น Surrender นั้นคือการยอมแพ้(สู้ไม่ไหวก็ยอมไปเถอะ) เสียแค่ครึ่งเดียวของที่ต้องเสียจริง
สำหรับพื้นฐานการตัดสินใจคือ
S คือ Stand (พอแล้วสำหรับแต้มแค่นี้)
H คือ HIt (ขอนู๋อีกซักใบ)
D คือ Double (งานนี้วัดใจอีกซักใบ)
Su คือ Surrender (นู่เล็ก นู๋ยอม)
เช่นถ้าใครได้ ไพ่เป็น 16 แต้ม แล้วหนึ่งใบของเจ้ามือเป็น 6 เราก็ควรจะ พอแค่นั้นละ ความน่าจะเป็นที่จะชนะจะมีมากครับ
พอจะรู้การเล่นแล้วเราก็มาทดลองเล่นกันดีกว่า
ถ้าใครได้ดูหนังเรื่อง 21 เกมเดิมพันอัจฉริยะละก็ จะเห็นถึงวิธีการใช้คณิตศาสตร์กับ Blackjack ให้หาเงินกันมหาศาล
สิ่งที่พวกเขาทำนั้นง่ายๆมาก (จะลองดูก็ได้)
เริ่มจากต้องฝึก การนับไพ่
การนับระดับที่ง่ายที่สุดแบบ สูง-ต่ำ
พวกนี้นับเป็น +1 ไพ่ต่ำ
นับเป็น 0 พวกนี้เป็นไพ่กลาง มองผ่านไป
พวกนี้ถือเป็นไพ่สูง นับเป็น -1 (ตาแรกได้พวกมันคู่กันเราก็ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว)
สังเกตว่า ผลรวมของไพ่ทั้งกองจะเป็น 0
เราแทนการออกมาของไพ่ต่างๆด้วยตัวเลขแบบนี้ แล้วนับไว้ในใจเรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องจำไพ่ทุกใบในสนาม
ในความเป็นจริงอาจจะใช้เทกกะนิกจับคู่ไพ่สูงกับไพ่ต่ำ แล้วดูไพ่ที่เหลือว่ามีค่าเท่าไรก็ได้
พอกออกเล่นในหนังเขาทำกันเป็นขบวนการ
ออกทำงานกัน 5 คน โดยส่งคนไปเล่นก่อนสามคนตั่งแต่เริ่มแบบแทงต่ำๆแล้วนับไพ่ไปจากนั้น เมื่อเจอโต๊ะไหนนับได้เลขมีค่ามากๆ ก็จะส่งขาใหญ่ไปเล่นแบบทุ่มสูงๆ ที่เหลื่อก็ช่วยกันนับเงิน (ฮ่าๆๆๆๆๆ)
ลองนึกดูว่าถ้าโต๊ะไปนับได้เลขมากๆ เช่น +16 +18 แสดงว่าไพ่ต่ำๆ ออกไปกันมากแล้ว
โอกาสที่เราจะได้แต้มสูงก็มีมาก แต่ถ้าเราได้แต้มไม่มากก็ไม่เป็นไรไม่ต้องรับเพิ่มเพราะว่าเราไม่ได้สู้กับเจ้ามือแค่คนเดี่ยว ถ้าเจ้ามือได้สูงไม่มากก็จะเอาเพิ่มและโอกาสที่จะมีแต้มเกินก็มีสูงมาก
ยิ่งถ้าเราได้คู่ก็ต้องรีบแยกคู่แล้วสู่ต่อเพื่อเพิ่มความน่าจะเป็น
สิ่งหนึ่งที่ต้องทำไปด้วยคือการนับไพ่ที่ออกมาเพื่อจะได้รู้จังหวะในการถอนตัว ในหนังเขาว่าไว้ว่า "จงวางมือก่อนจะถึงขาลง" แต่การเล่นของเรา เราอาจจะต้องคำนวณคะแนนไพ่เรา ไพ่เจ้ามือ ไพ่ผู้เล่นคนอื่นๆ พร้อมกับการนับไพ่ และการตัดสินใจว่าจะสู้ไม่สู้ อาจจะทำให้ผู้เล่นที่เป็นขาใหญ่ทำผิดพลาดได้ง่ายๆ ดังนั้นขาใหญ่จึงต้องเป็นคนที่มีความสามารถมาก
และงานยากอย่างต่อไปคือการนับเงินครับ
สิ่งที่พวกเขาทำนั้นง่ายๆมาก (จะลองดูก็ได้)
เริ่มจากต้องฝึก การนับไพ่
การนับระดับที่ง่ายที่สุดแบบ สูง-ต่ำ
พวกนี้นับเป็น +1 ไพ่ต่ำ
นับเป็น 0 พวกนี้เป็นไพ่กลาง มองผ่านไป
พวกนี้ถือเป็นไพ่สูง นับเป็น -1 (ตาแรกได้พวกมันคู่กันเราก็ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว)
สังเกตว่า ผลรวมของไพ่ทั้งกองจะเป็น 0
เราแทนการออกมาของไพ่ต่างๆด้วยตัวเลขแบบนี้ แล้วนับไว้ในใจเรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องจำไพ่ทุกใบในสนาม
ในความเป็นจริงอาจจะใช้เทกกะนิกจับคู่ไพ่สูงกับไพ่ต่ำ แล้วดูไพ่ที่เหลือว่ามีค่าเท่าไรก็ได้
พอกออกเล่นในหนังเขาทำกันเป็นขบวนการ
ออกทำงานกัน 5 คน โดยส่งคนไปเล่นก่อนสามคนตั่งแต่เริ่มแบบแทงต่ำๆแล้วนับไพ่ไปจากนั้น เมื่อเจอโต๊ะไหนนับได้เลขมีค่ามากๆ ก็จะส่งขาใหญ่ไปเล่นแบบทุ่มสูงๆ ที่เหลื่อก็ช่วยกันนับเงิน (ฮ่าๆๆๆๆๆ)
ลองนึกดูว่าถ้าโต๊ะไปนับได้เลขมากๆ เช่น +16 +18 แสดงว่าไพ่ต่ำๆ ออกไปกันมากแล้ว
โอกาสที่เราจะได้แต้มสูงก็มีมาก แต่ถ้าเราได้แต้มไม่มากก็ไม่เป็นไรไม่ต้องรับเพิ่มเพราะว่าเราไม่ได้สู้กับเจ้ามือแค่คนเดี่ยว ถ้าเจ้ามือได้สูงไม่มากก็จะเอาเพิ่มและโอกาสที่จะมีแต้มเกินก็มีสูงมาก
ยิ่งถ้าเราได้คู่ก็ต้องรีบแยกคู่แล้วสู่ต่อเพื่อเพิ่มความน่าจะเป็น
สิ่งหนึ่งที่ต้องทำไปด้วยคือการนับไพ่ที่ออกมาเพื่อจะได้รู้จังหวะในการถอนตัว ในหนังเขาว่าไว้ว่า "จงวางมือก่อนจะถึงขาลง" แต่การเล่นของเรา เราอาจจะต้องคำนวณคะแนนไพ่เรา ไพ่เจ้ามือ ไพ่ผู้เล่นคนอื่นๆ พร้อมกับการนับไพ่ และการตัดสินใจว่าจะสู้ไม่สู้ อาจจะทำให้ผู้เล่นที่เป็นขาใหญ่ทำผิดพลาดได้ง่ายๆ ดังนั้นขาใหญ่จึงต้องเป็นคนที่มีความสามารถมาก
และงานยากอย่างต่อไปคือการนับเงินครับ
